เลิกเขียนกระดานได้แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดตัวกระดานดิจิทัลรุ่นใหม่ Surface Hub 2

         เลิกเขียนกระดานได้แล้ว ไมโครซอฟท์เปิดตัวกระดานดิจิทัลรุ่นใหม่ Surface Hub 2โดยในรุ่นใหม่จะวางจำหน่ายเพียงขนาดเดียว คือ หน้าจอสัมผัสขนาด 50.5 นิ้ว ด้วยความละเอียด 4K+ ในอัตราส่วนการแสดงผลที่ 3:2 ผู้ใช้อุปกรณ์สามารถหมุนหน้าจอให้แสดงผลในโหมดแนวตั้งหรือโหมดแนวนอนก็ได้ โดยจะมีกลไกด้านหลังหน้าจอที่คอยจัดการระบบนี้ และทำให้หน้าจอสามารถแสดงผลได้อย่างราบรื่นในขณะที่หมุนหน้าจอนอกจากนี้เรายังสามารถนำหลายหน้าจอมาเรียงต่อกันเพื่อแสดงผลเหมือนจอภาพขนาดใหญ่จอเดียวซึ่งทำให้ดูน่าประทับใจและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไมโครซอฟท์กล่าวว่าได้มีการจับมือกับ Steelcase ในการนำเสนออุปกรณ์เสริมจำพวกขาตั้งเลื่อนได้หรือที่ยึดกำแพงให้กับลูกค้าที่ซื้อกระดานดิจิทัลรุ่นใหม่นี้ในตัวอุปกรณ์ Surface Hub 2 นี้ยังมีการติดตั้งกล้องดิจิทัลความละเอียด 4K (ซึ่งจะสามารถหมุนได้ตามหน้าจอ) พร้อมกับลำโพงและไมโครโฟนรับเสียงระยะไกล ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยสนับสนุนการสนทนาผ่านวีดีโอรวมถึงการประชุมทางไกลร่วมกันได้ในด้านซอฟท์แวร์ ตัวอุปกรณ์ Surface Hub 2 นี้จะติดตั้ง Window 10 และ Office 365 พร้อมกับซอฟท์แวร์สนับสนุนการทำงานร่วมกันอย่าง Microsoft Teams และยังมีแอพฯ เฉพาะให้สนับสนุนการทำงานในรูปแบบกระดานในชื่อ Microsoft Whiteboardไมโครซอฟท์ได้กล่าวว่าไม่ต่ำกว่าครึ่งของบริษัทใน Fortune 100 ได้ซื้ออุปกรณ์ Surface Hub รุ่นแรกไปแล้วและไมโครซอฟท์เคยกล่าวไว้ว่า Surface Hub เป็นอุปกรณ์ที่มีความต้องการซื้อที่สูงจึงไม่น่าแปลกใจที่มีการเปิดตัวรุ่นที่สองตามมา ตามที่ระบุคือ Surface Hub 2 จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทำงานในปีหน้าแต่น่าจะมีการให้ลูกค้าธุรกิจบางรายได้เริ่มทดลองใช้ในช่วงปลายปี 2018 นี้

          ความคิดเห็น:เป็นการสร้างความสะดวกสบายให้กับคนที่ต้องเขียนกระดานมีอุปกรณืติดตั้งพร้อม  มีจอภาพที่ขนาดใหญ่ และเป็นที่ต้องการมากในทางการตลาด

ที่มา:https://news.thaiware.com/13473.html

ประกาศมาตรฐานอุปกรณ์อ่านอักษรเบรลล์ใหม่ ผู้พิการทางสายตาเข้าถึงคอมฯ ได้ทุกระบบ

          
        กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เรียกตัวเองว่า "The USB Implementers Forum" ซึ่งมีสมาชิกอาทิ Apple, Microsoft และ Google ได้ประกาศมาตรฐานด้านอุปกรณ์ต่อประสานกับมนุษย์ (Human Interface Device) สำหรับการแสดงผลอักษรเบรลล์ มาตรฐานดังกล่าวถือเป็นก้าวที่สำคัญในการทำให้ผู้พิการทางสายตาหรือผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น โดยการทำให้อักษรเบรลล์สามารถแสดงผลข้ามระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลถึงความจำเพาะของซอฟต์แวร์หรือ Driver สำหรับแต่ละอุปกรณ์นั่นหมายถึงในไม่ช้านี้ ผู้ใช้งานจะสามารถใช้ตัวอ่านอักษรเบรลล์ในลักษณะอุปกรณ์แบบ Plug-and-Play ได้ในอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย ในลักษณะเดียวกับการใช้งานเมาส์หรือคีย์บอร์ดแบบ USB ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวยังทำให้กระบวนการนี้เป็นแบบเดียวกันในทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ PC, Mac หรืออุปกรณ์ Android ก็ตาม     ตามมาตรฐานที่ได้รับการจัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้วนี้ ผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงผู้จัดทำระบบปฏิบัติการจะต้องผลิตฮาร์ดแวร์และอัพเดตซอฟต์แวร์ให้รองรับกับมาตรฐาน ซึ่งจะเริ่มต้นการบังคับใช้อย่างเร็วที่สุดช่วงต้นปี 2019
          ความคิดเห็น:เป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้พิการทางสายตาจะทำให้ผู้ที่พิการทางสายตาได้เข้าถึงคอมพิวเตอร์เหมือนกับคนปกติทั่วไปได้

ที่มา:https://news.thaiware.com/13606.html

ไทยแวร์สปีดเทส (Thaiware Speedtest) บริการ เช็คความเร็วเน็ต

            ไทยแวร์สปีดเทส (Thaiware Speedtest) บริการ เช็คความเร็วเน็ต บนเว็บไซต์ Thaiware เพิ่มเครื่องมือเช็คความเร็วน้องใหม่จาก nPerf เป็นทางเลือก ให้เพื่อนๆ ได้ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตทั้งบนมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ได้อย่างสะดวกสบาย nPerf เป็นบริการเช็คความเร็วอินเทอร์เน็ตจากประเทศฝรั่งเศสที่ให้บริการมากว่า 15 ปี (เปิดตัวตั้งแต่ปี 2003) ซึ่งได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในประเทศต่างๆ ว่ามีความแม่นยำสูง ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส อิตาลี บราซิล เยอรมัน รวมไปถึงประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง อินโดนีเซีย รวมทั้งประเทศไทยโดย nPerf จะมีให้บริการทั้งในรูปแบบของการเช็คความเร็วผ่านหน้าเว็บเบราว์เซอร์ และรูปแบบแอพพลิเคชั่นที่มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Google Play (Android), App Store (iOS) และบน Windows Storeในด้านการใช้งานบนเว็บไซต์ ทั้ง nPerf และ OOKLA จะมีความสามารถในการวัดความเร็วเน็ตที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการวัดความเร็วในการรับส่งข้อมูล (Bit Rate) ทั้งการดาวน์โหลด (Download) และอัพโหลด (Upload), ค่าความเร็วในการตอบสนอง (Latency/Ping) และค่าความล่าช้า (๋Jitter) แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ nPerf นั้นสามารถเลือกหน่วยของ Bit Rate ในการแสดงผล และเลือก Server สำหรับทำการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตได้หลากหลายกว่า
       ความคิดเห็น:เป็นบริการที่ดีที่ทำให้เราสามารถรู้ความเร็วของเน็ตเราได้และยังมีการรับรองที่น่าเชื่อใจ สามารถโหลดแอปได้ง่ายอีกด้วย

ที่มา:https://news.thaiware.com/14404.html

AI Guardmanกล้องเฝ้าระวังความปลอดภัยอัจฉริยะ

              AI Guardman คือ กล้องเฝ้าระวังความปลอดภัยอัจฉริยะ (Smart security camera) อันเกิดจากการจับมือกันของ 2 บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น NTT East ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม และ Earth Eyesบริษัทด้านเทคโนโลยี ที่ร่วมกันฝึกฝน AI ร่วมกับลักษณะด้านพฤติกรรมของเหล่านักช้อปกล้องดังกล่าวนี้ ใช้เทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สที่พัฒนาโดย Carnegie Mellon University (CMU) มันถูกฝึกฝนให้รู้จักการอ่านภาษากายของลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้า ซึ่งทำให้มันมีความสามารถที่โดดเด่นในการตรวจจับพฤติกรรม การทำท่าทางต่างๆ ของผู้คน โดยวิเคราะห์ได้อย่างละเอียดไปจนถึงการดู "ท่าทางของนิ้วมือ"ซึ่งในปีที่ผ่านมา ทาง CMU ก็ได้เปิดโอเพ่นซอร์สโปรเจคดังกล่าว บน GitHub เพราะต้องการที่จะให้นวัตกรรมนี้ถูกพัฒนาต่อยอดไปอีก โดยเหล่านักพัฒนาจากทั่วโลก โดยเฉพาะผู้พัฒนาในเชิงพาณิชย์การต่อยอดเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาพัฒนาจนเป็น AI Guardman นับว่าเป็นประโยชน์มหาศาล จากรายงานของ Soranews24 ได้ระบุว่า "ในการทดสอบเบื้องต้น ณ ร้านค้าแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น พบว่าตัวเลขของเม็ดเงินที่สูญไปในรายปีลดลงมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์"โดย AI Guardman จะสังเกตกิริยาอาการของคนที่มาเลือกซื้อสินค้า และเมื่อตรวจพบพฤติกรรมน่าสงสัย เช่น การพยายามมองหามุมอับของร้าน, มองหากล้องวงจรปิด หรือเอาแต่มองซ้ายมองขวา ฯลฯ กล้องก็จะแจ้งเตือนต่อพนักงานร้าน ด้วยข้อความ, ภาพ พร้อมทั้งตำแหน่งของผู้ต้องสงสัยนับเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการของ AI ที่ตอนนี้สามารถตรวจจับการสื่อสารที่ไม่ใช่คำพูดได้แล้ว แถมยังทำได้ดีอีกด้วย ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีที่ว่าจะถูกใช้ทำประโยชน์ได้อีกมากมาย เช่น ใช้ในการฟื้นฟูผู้ป่วยทางจิต, ใช้กับรถยนต์ไร้คนขับในการตรวจจับสัญญาณคนเดินเท้าโดยอิงกับภาษากาย เป็นต้น

          ความคิดเห็น:เป็นกล้องที่น่าสนใจถ้ามีกล้องนี้อยู่จะทำให้เราปลอดภัยขึ้นเหมือนมีกล้องเป็นหูเป็นตาให้เราได้ และยังสามรถจับหน้าคนร้ายได้อีกด้วย

ที่มา:https://news.thaiware.com/13851.html

เว็บเบราว์เซอร์ Chrome เพิ่งจะมีอายุครบรอบ 10 ปี

          เว็บเบราว์เซอร์ Chrome เพิ่งจะมีอายุครบรอบ 10 ปี เพื่อเป็นการฉลองวันเกิด ทาง Google ได้ใช้จังหวะนี้อัพเดท Chrome เวอร์ชั่นใหม่ที่มาพร้อมกับการออกแบบหน้าตาใหม่ มันจะดูเรียบง่าย และมีความโค้งมนมากขึ้นในหลายๆ ส่วน โดยความเปลี่ยนแปลงนี้มีผลทั้ง Chrome บน PC, iOS และ Androidนอกจากหน้าตาที่เปลี่ยนไปแล้ว ความสามารถของมันยังถูกปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอีกด้วยหลายด้าน อย่างเช่น

• ระบบ Autofill และจัดการรหัสผ่านที่แม่นยำมากขึ้น
• มีระบบสร้างรหัสผ่านอัตโนมัติที่แข็งแกร่ง โดยมันจะลิงค์เข้ากับบัญชี Google ให้ด้วย ไม่ต้องกลัวว่าจะจำรหัสผ่านไม่ได้
• ช่อง Omnibox แสดงข้อมูลได้มากขึ้น โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเปิดแท็บใหม่
• เราสามารถค้นหาข้อมูลผ่าน Omnibar ได้ง่าย และแม่นยำกว่าเดิม

• สร้างทางลัดให้เว็บไซต์โปรดได้โดยตรงจากหน้าแท็บใหม่
• ในเร็วๆ นี้ จะสามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการใน Google Drive ได้โดยตรงผ่านช่อง Search bar ในส่วนของประสิทธิภาพ ทาง Google ประกาศว่าจะปรับปรุงให้ Chrome เริ่มทำงานได้เร็วมากขึ้น, ใช้แรมน้อยลง ฯลฯ แม้ว่าเราจะยังไม่เห็นว่ามันใช้แรมน้อยลงแล้วในเวอร์ชั่นนี้ แต่เราก็หวังว่า Google จะอัพเดทตามมาในเร็วๆ นี้ใครที่ยังไม่ได้อัพเดทลองเปิด Chrome ขึ้นมาแล้วคลิกไปที่การตั้งค่าที่มุมขวาบน เลือก Help >> About Google Chrome เพื่อให้มันอัพเดท
•                 ความคิดเห็น:เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับChromeด้วยที่่อายุครบ10ปี และยังมีการพัฒนาระบบให้ก้าวหน้าไปกว่าเดิมอยู่ตลอดเวลาน่าติดตามChromeไปเรื่อยๆ
• ที่มา:https://news.thaiware.com/14463.html

Lenovo นำแล็ปท็อปหลายรุ่นมาเปิดตัวภายในงาน IFA 2018

        Lenovo นำแล็ปท็อปหลายรุ่นมาเปิดตัวภายในงาน IFA 2018 (31 ส.ค. – 5ก.ย.) ซึ่งเป็นงานจัดแสดงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยแต่ละรุ่นล้วนมีดีไซน์และจุดเด่นแตกต่างกันออกไปสำหรับ Yoga Book C930 นั้น มีจุดเด่นในด้านดีไซน์ที่นำหน้าจอ E Ink มาแทนแป้นพิมพ์แบบเดิม อีกทั้งยังมีบอดี้ที่บาง และน้ำหนักเบามาLenovo นำแล็ปท็อปหลายรุ่นมาเปิดตัวภายในงาน IFA 2018 (31 ส.ค. – 5ก.ย.) ซึ่งเป็นงานจัดแสดงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี โดยแต่ละรุ่นล้วนมีดีไซน์และจุดเด่นแตกต่างกันออกไปสำหรับ Yoga Book C930 นั้น มีจุดเด่นในด้านดีไซน์ที่นำหน้าจอ E Ink มาแทนแป้นพิมพ์แบบเดิม อีกทั้งยังมีบอดี้ที่บาง และน้ำหนักเบามากถึงแม้จะดูคล้ายแท็บเล็ตมากกว่า แต่ Yoga Book C930 ก็มีประสิทธิภาพในการทำงานเช่นเดียวกับแล็ปท็อปรุ่นใหญ่ๆ ด้วยประสิทธิภาพชิปประมวลผลเจนเนอเรชั่นที่ 7 ของ Intel และระบบปฏิบัติการ Windows 10 พร้อมบานพับที่ให้เปิดหน้าจอได้ 360 องศา ทำให้ใช้งานแบบแท็บเล็ตได้ และรองรับปากกา Stylus

     ความคิดเห็น:เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยดีและมีจุดเด่นที่โดเด่นมาก ใช้งานได้สะดวกและพกพาง่ายมีประสิทธิ์ภาพสูง

ที่มา:https://www.beartai.com/news/itnews/275284

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบแล้ว โลกเราไม่ได้มีดวงจันทร์แค่ดวงเดียว!

         ได้รับการสั่งสอนในชั่วโมงเรียนวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่สมัยเราเป็นเด็กๆ ว่า โลกของเรานั้นมีดาวบริวารเพียงดวงเดียว นั่นก็คือดวงจันทร์ลายกระต่ายที่เราเห็นอยู่เป็นประจำทุกค่ำคืน แต่ดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ดวงอื่นในระบบสุริยะนั้นมีดาวบริวาร (หรือดวงจันทร์) ที่โคจรรอบๆ มันอยู่เป็นจำนวนหลายดวงเลย แล้วโลกของเราหล่ะ จะมีดวงจันทร์เพียงดวงเดียวจริงหรือ???

ผลงานวิจัยชิ้นล่าสุดเผยความจริงที่ว่า นอกจากโลกของเราจะมีดวงจันทร์ดวงใหญ่ที่เราเห็นจนชิ้นตาแล้ว โลกของเรายังมีดวงจันทร์ขนาดเล็ก "mini-moons" อีกเป็นจำนวน 1 ดวงหรือมากกว่านั้น แต่ดวงจันทร์ไซส์จิ๋วนั้นมีขนาดเล็กมาก แถมมันยังไปๆ มาๆ ในวงโคจรรอบโลกของเราอีกต่างหาก ทำให้ยากที่จะตรวจพบผลงานวิจัยนี้ ได้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อ Frontiers in Astronomy and Space Sciences เผยว่าคณะทำงานที่ฟอร์มทีมขึ้นมาจากนักดาราศาสตร์ระดับนานาชาติ ได้พูดถึงวัตถุขนาดเล็กในอวกาศ ที่กระโดดเข้ามาในวงโคจรรอบโลก พวกมันมีขนาดเล็กมาก มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 1-2 เมตรเท่านั้น พวกมันกลับมาแล้วก็หายไปจากวงโคจรอยู่หลายครั้งหลายหน และการค้นพบในรูปแบบนี้ ได้เปิดช่องทางใหม่ให้นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องวงจรชีวิตของดาวเคราะห์น้อย

และนักวิจัยได้อธิบายว่า มีการค้นพบ "ดวงจันทร์ขนาดเล็ก" เป็นครั้งแรกในปี 2006 เป็นครั้งแรกที่เริ่มมีการสำรวจวัตถุขนาดเล็กมากๆ ที่โคจรรอบโลก เป็นข้อยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ก้อนหินขนาดเล็กในอวกาศนั้นถูกตรึงด้วยแรงดึงดูดของโลกอย่างง่ายดาย กระนั้นการค้นพบในครั้งนี้ก็ยังนับว่ามีความสำคัญมากๆนักวิทยาศาสตร์แบ่ง ดวงจันทร์ขนาดเล็ก ออกเป็น 2 รูปแบบ คือ TCOs และ TCFs โดยย่อมาจาก Temporarily-Captured Orbiters และ Temporarily-Captured Flybys โดยดวงจันทร์ขนาดเล็กทั้ง 2 รูปแบบนั้นจะไม่โคจรรอบโลกเป็นระยะเวลานานๆ พวกมันจะหนีออกไปจากวงโคจรโลก แล้วกลับมาเข้าวงโคจรอีกครั้ง โดยดวงจันทร์ขนาดเล็กประเภท TCOs นั้นจะโคจรรอบโลกอย่างน้อย 1 รอบ ก่อนที่มันจะหนีไป ในขณะที่แบบ TCF นั้นแค่แวะมาเฉียดโลก แล้วลอยจากไปด้วยความเร็วสูง

และจนถึงวันนี้ มีดวงจันทร์ขนาดเล็กแบบ TCO เพียงดวงเดียวที่มีการค้นพบในปี 2006 แต่นักวิจัยเชื่อว่า ด้วยเทคโนโลยีกล้องโทรทรรศน์แบบใหม่ จะทำให้เราตรวจพบดวงจันทร์ขนาดเล็กได้มากขึ้น และการค้นพบจะทำให้นักดาราศาสตร์มีข้อมูลมากพอ เพื่อสร้างแบบจำลองการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์น้อยในระบบสุริยะของเรา

   ความคิดเห็น:เป็นข่าวที่น่าสนใจทำให้เราได้รู้ว่าความจริงเรื่องดวงจันทร์เป็นอย่างไร

ที่มา:https://news.thaiware.com/14329.html

สหภาพยุโรปเล็งใช้กฏหมายบังคับใช้ให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ไอทีใช้ที่ชาร์จเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด

        ปฏิเสธไม่ได้เลยหว่า ทุกวันนี้ที่ชาร์จมือถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญในโลกสมัยใหม่ อย่างไรก็ตาม มาตรฐานที่แตกต่างกันในแต่ละอุปกรณ์เป็นปัญหาที่ผู้ใช้ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวอย่างเช่น ใน iPhone ใช้พอร์ต Lighning, Android ส่วนใหญ่ใช้ Micro USB ไม่ก็ USB-C ส่วนพวกกล้องติดรถยนต์มักจะนิยมใช้ Mini USB ซึ่งหากย้อนไปในปี 2009 ทางสหภาพยุโรป (European Union) ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ใช้มาตรฐาน Micro USB เป็นมาตรฐานหลักสำหรับที่ชาร์จมือถือแต่ในปี 2012 Apple ได้พัฒนาพอร์ต (พอร์ต Lightning) ของตัวเองขึ้นมาใหม่ และใช้ในอุปกรณ์ของตัวเองทั้ง iPhone, iPad และ iPod ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าคำเรียกร้องของ EU ดูจะไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ ทว่าล่าสุดทาง EU ได้หยิบประเด็นนี้ขึ้นมาชงใหม่อีกครั้ง โดยแผนใหม่ที่ EU จะใช้ คือ ร่างเป็นกฏหมายเพื่อบังคับให้บริษัทใช้พอร์ตเป็นมาตรฐานเดียวกัน

Margrethe Vestager (EU Competition Chief) ได้กล่าวว่า "การให้ทำตามข้อกำหนดด้วยจิตอาสาได้ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นที่น่าพึงพอใจเท่าไหร่ คณะกรรมาธิการจะเร่งทำการวิจัยเพื่อประเมินมูลค่าความเสียหาย และผลประโยชน์ของการมีหลายมาตรฐานเพื่อหาข้อสรุป"

EU ได้กล่าวว่าทุกปีจะมีขยะอิเล็กทรอนิกส์มากถึง 51,000 ตัน เกิดขึ้นทุกปี มาจากอุปกรณ์จำพวกที่ชาร์จ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก หากคำนึงถึงจุดนี้ ก็ไม่น่าแปลกอะไรที่ทาง EU ต้องการใช้มาตรฐานเดียวกัน เพื่อลดปริมาณขยะ ก็ได้แต่หวังว่าทุกบริษัทจะยินยอมตกลงใช้มาตรฐานเดียวร่วมกัน เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเท่านั้น ผู้ใช้อย่างเราก็จะไม่ต้องลำบากพกสายหลายๆ แบบอีกต่อไป

                ความคิดเห็น:เป็นเรื่องที่ดีเพราะจะได้ไม่มีข้อแตกต่างเรื่องการชาร์ตแบตใครๆก็สามารถชาร์ตแบตในลักษณะที่เหมือนๆกันได้

  ที่มา:https://news.thaiware.com/14234.html

Google Drive บริการจัดเก็บไฟล์ที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี

Google Drive บริการจัดเก็บไฟล์ที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในตอนนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 ของการบริการแล้วและกำลังจะมีผู้ใช้งานก้าวขึ้นไปเหยียบ 1,000 ล้านรายแล้วอีกด้วยโดยการประกาศนี้มาจากงานการประชุม Google Cloud Next ในซานฟรานซิสโกและแม้ว่าทาง Google จะยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าผู้ใช้งานจะก้าวถึงจำนวน 1,000 ล้านรายเมื่อไรแต่ก็มีการคาดการณ์เอาไว้คร่าวๆ ว่าอาจจะเป็นช่วงปลายสัปดาห์ที่จะถึงนี้และถ้าเป็นไปตามคาดแล้วล่ะก็ Google Drive นับเป็นผลิตภัณฑ์ตัวที่ 8 จากทาง Google ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านรายซึ่งที่ผ่านมาก็มีทั้ง Gmail, Chrome, และ Google Maps ที่ทำสถิตินี้มาเรียบร้อยแล้วส่วนในปีที่ผ่านมายอดผู้ใช้งาน Android ก็ขึ้นไปแตะที่ 2,000 ล้านรายเรียบร้อยแล้วและถือเป็นระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์มือถือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วยโดยตั้งแต่มีการเปิดตัวให้ได้ใช้งาน Google Drive กันเมื่อปี 2012 ก็ถือเป็นการเริ่มก็บไฟล์เป็นจำนวนนับล้านๆ ไฟล์ และมีผู้ใช้งานกว่า 800 ล้านรายต่อวันตามที่ทาง Google ได้เปิดเผยข้อมูลในการประชุม Google I/O ในปีที่ผ่านมาและเมื่อไม่นานมานี้ Google ก็เพิ่งเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้งานในด้านธุรกิจ อาทิฟีเจอร์ Team Drives และ File Stream ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่

ความคิดเห็น:เป็นเรื่องที่น่ายินดีกับGoogle Driveซึ่งเป็นผลดีกับผู้ใช้งานด้วยจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้กูเกิ้ลไดฟ์ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ

ที่มา:https://news.thaiware.com/14111.html

สังคมไร้เงินสดเซเว่นเกาหลีนำร่องทดสอบระบบจ่ายเงินผ่าน ‘ฝ่ามือ’ แล้ว

            ทุกวันนี้เราได้เห็นรูปแบบการชำระเงินที่ไม่ใช่เงินสดหรือพกกระเป๋าสตางค์ให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อในต่างประเทศ ซึ่งล่าสุด 7-Eleven ในเกาหลีใต้เองก็เริ่มทดสอบบริการชำระเงินด้วยมือเปล่าหรือ HandPay กันแล้ว จากการรายงานของ Korea Seven บริษัทที่ดูแลแฟรนไชส์ 7-Eleven ในประเทศเกาหลีใต้ทั้งนี้ บริการดังกล่าวเริ่มทดสอบใช้กับ 7-Eleven Signature สาขา Lotte World Tower ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในเกาหลี (และยังเป็นตึกที่สูงที่สุดอันดับ 5 ของโลก) ซึ่งลูกค้าจะต้องทำการลงทะเบียนการใช้งาน HandPay ก่อนจึงจะเข้าไปซื้อสินค้าใน 7-Eleven สาขาดังกล่าวได้ โดยเบื้องต้นจะรองรับกับลูกค้าที่เป็นพนักงานของบริษัท Lotte ก่อนเป็นอันดับแรก และการทดสอบการชำระเงินแบบ HandPay จะดำเนินการจนถึงสิ้นเดือนกรกฏาคมนี้สำหรับตัวร้าน 7-Eleven Signature ตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อรายแรกของโลกที่จะไม่จ้างพนักงานประจำร้าน แต่จะใช้วิธีการชำระเงินผ่าน HandPay หรือ การยืนยันตัวตนผ่านไบโอเมตริกซ์ เข้ามาแทน นอกจากนี้ 7-Eleven สาขาดังกล่าวก็ถูกบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV แบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งในอนาคตอันใกล้ก็จะมีการนำ โดรน มาบินสำรวจความปลอดภัยทั้งตัวร้านอีกด้วย โดยในขณะนี้ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าระบบการชำระเงินใหม่นี้จะถูกนำไปใช้กับ 7-Eleven ในประเทศอื่นเร็วๆ นี้หรือไม่ ต้องติดตามข่าวกันต่อไป

ความคิดเห็น:เป็นสิ่งทีี่ดีน่าจะช่วยลดปัญหาเรื่องการปล้นเงินได้เพราะไม่มีการจ่ายเงินสดและเป็นสิ่งที่ทันสมัยน่าตื่นตาตื่นใจ

ที่มา:https://www.beartai.com/news/itnews/168939

เปิดตัวแบรนด์ลูกใหม่ Mijia

        Xiaomi เปิดตัวแบรนด์ลูกใหม่ Mijia ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ใช้กับนาฬิกาควอร์ท​แบบไฮบริดหรือนาฬิกาลูกครึ่งที่ผสมผสานความคลาสสิคและรองรับการใช้งานในแบบสมาร์ทวอชด้วย

Mijia Quartz มีดีไซน์แบบคลาสสิคที่ไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตทุกวันเหมือนสมาร์ทวอชทั่วๆ ไป หน้าปัดกว้าง 40 มิลลิเมตร ในหน้าปัดจะมีวงกลมด้านล่างซึ่งเป็นมี Pedometer ตรวจจับจำนวนการเดิน สามารถปรับเวลาตามโซนประเทศต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ มีระบบแจ้งเตือนและนาฬิกาปลุกภายในเรือน เนื่องจากไม่มีหน้าจอสำหรับตั้งค่าจึงต้องตั้งค่าผ่านสมาร์ทโฟนเท่านั้น

ความคิดเห็น: เป็นเครื่องมือใหม่ที่ทันสมัยสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างดี มีระบบใช้งานที่สะดวกกระทัดรัดไม่ต้องชาร์ตแบตทุกวันเป็นนาฬิการที่ทันสมัยน่าสนใจ

ที่มา:https://www.beartai.com/news/itnews/261142

คนไทยมีเฮจ่อได้ดูบอลพรีเมียร์ลีกสดบน Facebook เร็ว ๆ นี้

คนไทยมีเฮจ่อได้ดูบอลพรีเมียร์ลีกสดบน Facebook เร็ว ๆ นี้

The Sun สื่อแท็บลอยด์ชื่อดังของอังกฤษรายงานว่า Facebook ใกล้บรรลุข้อตกลงคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเพื่อทำการสตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์มเป็นระยะเวลา 3 ปีแล้ว โดยนอกจากช่องทางหารายได้โฆษณาเม็ดเงินมหาศาลแล้ว ยังหวังขยายฐานผู้ใช้ในเอเชียด้วยรายงานเปิดเผยว่า Facebook ได้เจรจากับตัวแทนของพรีเมียร์ลีกแล้ว โดยการซื้อลิขสิทธิ์คราวนี้จะทำให้ผู้ใช้ Facebook ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ไทย, ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม สามารถชมเกมสดๆ ผ่าน Facebook เลย และคาดว่าดีล Facebook จะประกาศดีลดังกล่าวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

ความคิดเห็น :ถ้ามีการถ่ายทอดสดทางเfacebookเป็นผลดีกับชาวไทยเพราะบางคนกำลังเดินทางอยู่อยากดูถ่ายทอดสดแต่กลับมาดูที่บ้านไม่ทันก็ทำให้พลาดโอกาสที่สนุกไปได้เวลานั่งอยู่บนรถก็สามารถชมถ่ายทอดสดทางfacebookได้ก็ทำให้คนไทยมีสิทธิ์เชียร์บอลได้ทุกที่ทุกเวลา

ที่มา :https://www.facebook.com/

เตรียมเปิดให้ใช้รถบัสไร้คนขับในประเทศญี่ปุ่น ในปี 2019

 เตรียมเปิดให้ใช้รถบัสไร้คนขับในประเทศญี่ปุ่น ในปี 2019

Bloomberg รายงานว่า รถบัสไร้คนขับของ Baidu อาจเริ่มวิ่งบนท้องถนนของประเทศญี่ปุ่น ในช่วงต้นปี 2019 Baidu ได้ประกาศภายในการประชุมนักพัฒนาประจำปีว่า ได้เริ่มการผลิตรถบัสดังกล่าวแล้ว ร่วมกับ SB Drive บริษทย่อยของ Softbank โดยจะผลิตรถบัสจำนวน 10 คัน สำหรับเมืองที่ได้รับเลือกในประเทศญี่ปุ่นBaidu กำลังพัฒนารถบัสไร้คนขับร่วมกับ King Long บริษัทผลิตรถบัสของประเทศจีน โดยจะมีชื่อว่า Apolong ซึ่งได้ผลิตแล้วถึง 100 คัน และทาง BBC ได้รายงานเพิ่มเติมว่าสามารถรองรับที่นั่งผู้โดยสารได้ 14 ที่นั่ง แต่ไม่มีที่นั่งคนขับและไม่มีพวงมาลัยรถบัส Apolong จะมีประสิทธิบภาพในการขับขี่ไร้คนขับระดับ 4 ซึ่งจากข้อมูลของ NHTSA (National Highway Traffic Safety Administration : องค์กรบริหารความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐอเมริกา) ได้ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องมีคนขับภายในพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่จำเพาะเจาะจงไม่เพียงแค่นั้น Baidu ยังได้ประกาศเกี่ยวกับการอัปเดตแพลตฟอร์มขับขี่ไร้คนขับที่เรียกว่า Apollo ซึ่งได้มีการเพิ่มเติมการตรวจจับใบหน้าคนขับ และจะใช้ซอฟต์แวร์การมองผ่านกล้องและคอมพิวเตอร์ของ Mobileye บริษัทย่อยของ Intel อีกด้วย

ความคิดเห็น: เป็นการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่น่าสนใจ สามารถช่วยเรื่องการหลับในของคนขับรถได้อุบัติเหตุทางถนนก็จะลดลง

ที่มาhttps://www.beartai.com/news/itnews/258364

เครื่องรีไซเคิลเศษอาหารอัจฉริยะ

FoodCyclerเครื่องรีไซเคิลเศษอาหารอัจฉริยะ

 เครื่องรีไซเคิลเศษอาหารอัจฉริยะ ถูกพบที่เว็บ nofoodwaste.com หนึ่งในแก็ดเจ็ดแห่งอนาคต มันถูกคิดค้นขึ้นเพื่อช่วยลดปัญหาเรื่องเศษอาหารในครัวเรือน โดยการนำเศษอาหารเหล่านั้นไปแปรรูปและนำกลับมาใช้ใหม่ ตัวเครื่องถูกออกแบบคล้ายเครื่องซักผ้าขนาดเล็ก สี่เหลี่ยมทรงสูง มีฝาเปิด – ปิด แบบบิดล็อก ทางด้านบน พร้อมด้วยปุ่มเริ่มการทำงานที่อยู่บริเวณมุมขวา และไฟแสดงสถานการณ์ทำงานในแต่ละขั้นตอน

ความคิดเห็น:เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจทำให้ช่วยลดขยะในบ้านได้ถ้ามีเครื่องนี้จะช่วยให้บ้านสะอาดยิ่งขึ้นและช่วยลดปัญหากลิ่นเน่าเสียในบ้านได้

ที่มาhttp://www.itday.in.th/foodcycler-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB/

ผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assistant

กูเกิล (Google) เปิดตัวผู้ช่วยอัจฉริยะ Google Assistant ที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่มีชีวิตมากขึ้นกว่าเดิม และเพิ่มเติม คือ คืนเวลาชีวิตของคุณให้กับคนรอบข้าง

           ระบบ AI ใน Google Assistant  สามารถเลียนเสียงสั่งการของมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการเพิ่มเสียง “อืม” ที่เหมือนเสียงสนทนาของมนุษย์เข้าไป ซึ่งจะช่วยในการโทรศัพท์ติดต่อไปยังธุรกิจร้านค้าต่างๆ เช่น การจองโต๊ะในร้านอาหาร หรือ นัดทำผมที่ร้านใกล้บ้านคุณ โดยที่ปลายสายอาจไม่รู้ว่า นั่นคือเสียงจากระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำหน้าที่แทนคุณ  นอกจากนี้ Google Assistant ยังช่วยตอบอีเมลให้คุณเหมือนกับนั่งอยู่ในความคิดของคุณได้ ด้วยการช่วยต่อท้ายในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ต้องการ และยังเพิ่มลูกเล่นในการจัดการช่วงเวลาใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Screen Time ซึ่ง AI จะศึกษาพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ และจะควบคุมเวลาในการใช้ เพื่อให้คุณหันกลับไปใช้ชีวิตกับคนรอบตัวมากขึ้น

ความคิดเห็น  เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้มีเวลาทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้นไม่ต้องเสียเวลาไปจองโต๊ะที่ร้านอาหารเพียงแค่มี Google Assistant ก็ช่วยให้เรามีเวลามากขึ้น

ที่มาhttps://www.sanook.com/hitech/1451449/

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์2560

ที่มา

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/010/24.PDF